ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 21 มีนาคม 2551 - 27 มีนาคม 2551
ภาคเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัว ในช่วงวันที่ 21 มี.ค. และ26-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 22-25 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ กับมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง และต้นไม้ใหญ่ ขณะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการหักโค่น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัว ในช่วงวันที่ 21 มี.ค. และ25-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งขณะมีฝนฟ้าคะนอง รวมทั้งควรซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์และหลังคาให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนบริเวณที่สภาพอากาศแห้งแล้งฝนน้อย เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด
ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัว โดยในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบาง ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้งขณะมีฝนฟ้าคะนอง สำหรับบริเวณที่มีฝนตกน้อย และข้าวนาปรังที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต ชาวนาควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอเพราะหากขาดน้ำในช่วงดังกล่าวจะทำให้ผลผลิตลดลง ส่วนผู้เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพราะอาจปรับตัวไม่ทันเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. อากาศร้อนทางตอนบนของภาคกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 23-27 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายนอกจากนี้ควรผูกโยงและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการฉีกหักและโค่นล้มขณะลมกระโชกแรง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 21-23 และ26-27มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆและ ในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 21-23 และ26-27มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ สำหรับบริเวณที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลซึ่งอยู่ในระยะ ออกดอกและติดผลอ่อน หากขาดน้ำในช่วงนี้จะทำให้ ดอกร่วงหล่น ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงหรือด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-