ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 24 มีนาคม 2551 - 30 มีนาคม 2551
ภาคเหนือ
มีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและอากาศร้อน อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ เกษตรกรไม่ควรเผาตอซังหรือฟางข้าวในระยะนี้ เนื่องจากลมกระโชกแรงเสี่ยงต่อการลุกลามของอัคคีภัย และเพิ่มฝุ่นละอองควันพิษในอากาศ ส่วนลำไยและลิ้นจี่ที่กำลังติดผล เกษตรกรควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-26 มี.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ โดยมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 มี.ค. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้แก่บ้านเรือนและโรงเรือน อีกทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งขณะมีฝนฟ้าคะนอง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจากฝนตกซึ่งจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลง
ภาคกลาง
อากาศร้อน และในช่วงวันที่ 24-26 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรง
และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 มี.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ สำหรับเกษตรกรที่ปลูกไม้ดอกควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต และดอกเสียหาย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรทำที่พรางแสงให้สัตว์ หลบพักในช่วงที่มีแสงแดดจัด
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางและมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนและและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในสภาพแข็งแรง รวมทั้งควรใช้วัสดุค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคง ป้องกันกิ่งหักและต้นโค่นล้ม
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายตลอดช่วง ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ตลอดช่วง สำหรับไม้ผลที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอและควรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรคลุมโคนต้นพืชเพื่อรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูดต่างๆ สำหรับยางพาราที่เพิ่งปลูกใหม่ ชาวสวนควรกำบังแสงให้ต้นกล้าในช่วงนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-