พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม 2565 - 16 ตุลาคม 2565
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 11 ? 16 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ฝนลดลงและอุณหภูมิจะลดลง 3 ? 5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12 ? 13 ตุลาคม 65 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ในช่วงวันที่ 13 ? 14 ตุลาคม 65 ทำให้ในช่วงวันที่ 14 ? 15 ต.ค. 65 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 11 ? 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11 ? 16 ต.ค. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 3 ? 5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
โดยมีฝนฝ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 14 ? 15 ต.ค. 65 กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11 ? 13 และ 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
และในช่วงวันที่ 14 ? 15 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11 ? 13 และ 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
โดยในช่วงวันที่ 14 ? 15 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตลอดช่วง
ในวันที่ 10 - 11 ต.ค. 65
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 16 ต.ค. 65
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 11-16 ต.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 10 - 11 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 16 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 2 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ออกประกาศ 10 ตุลาคม 2565
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา