พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 23 - 29 มกราคม พ.ศ. 2566 ออกประกาศวันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2566 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 10/2566 การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จาก/ ประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร คำเตือน บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ส่วนภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชายชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไห้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทยตอนล่าง จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าฝั่งไว้ด้วย
คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในวันที่ 24 ม.ค.65 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ม.ค.66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 9-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ระยะนี้มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดบางแห่ง ซึ่งจะทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายได้ จากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะไฟอาจลุกลามจนเป็นอัคคีภัยได้ตะวันออก ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค.66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 เฉียงเหนือ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค.66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 8-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. -ในช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลง จนมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง ตลอดช่วง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องการการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย จากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เพราะไฟอาจลุกลามจนเกิดอัคคีภัยได้
กลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 15-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. -ระยะนี้มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง ตลอดช่วง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากอากาศที่เย็นลงนอกจากนี้เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร เป็นต้น ศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพได้ สำหรับสภาวะอากาศที่แห้งและมีลมแรงในระยะนี้ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เพราะอาจลุกลามจนเกิดอัคคีภัยได้ ตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. -อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง ตลอดช่วง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่องป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงในช่วงนี้ ส่งผลให้การระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชหรือโคนต้นพืชด้วยวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินแล้วยังช่วยรักษาอุณหภูมิดินได้ด้วย รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพราะอาจลุกลามจนเป็นอัคคีภัยได้ สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ ควรปรับลดปริมาณอาหารลง เนื่องจากในช่วงที่อากาศเย็นสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อย ใต้ ฝั่งตะวันออก ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค.66 ทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 ตั้งแต่ จ. สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม. ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค.66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม. -ตอนบนของภาค: มีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักไว้ด้วย ทางตอนล่างของภาค : จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ นอกจากนี้คลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าฝั่งไว้ด้วย PK ลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 16-22 มกราคม 2566 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย โดยมีกำลังอ่อนลงในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ประกอบกับมีลมตะวันตกในระดับบนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. ลักษณะดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปกับมีอากาศหนาวบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นในระยะกลางและปลายสัปดาห์ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นในระยะดังกล่าว
ภาคเหนือ มีอากาศหนาวทั่วไปทางตอนบนของภาคเกือบตลอดสัปดาห์ ส่วนทางตอนล่างของภาคมีอากาศหนาวเกือบทั่วไปในวันแรกและในระยะปลายสัปดาห์ ส่วนวันอื่น ๆ มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ และมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ของจังหวัดตากในวันสุดท้ายของสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด นอกจากนี้มีรายงานน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่เกือบตลอดสัปดาห์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปกับมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาคในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศหนาวเกือบทั่วไป สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด นอกจากนี้มีรายงานน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ของจังหวัดเลยในวันที่ 21 ม.ค. ภาคกลาง มีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในวันแรกและวันสุดท้ายของสัปดาห์ ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทราในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปทางตอนบนของภาคตลอดสัปดาห์ ส่วนทางตอนล่างของภาคมีอากาศเย็นในบางวัน โดยมีฝนร้อยละ 5-55 ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีอากาศเย็นบางพื้นที่ โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 18 และ 22 ม.ค. มีฝนร้อยละ 35-65 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันสุดท้ายของสัปดาห์
ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีรายงานฝนตกหนักและหนักมากบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดนราธิวาส ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และกระบี่ สำหรับปริมาณฝนสูงสุด วัดได้ 128.4 มิลลิเมตร ที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ม.ค.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา