พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 24 - 30 เมษายน พ.ศ. 2566 ออกประกาศวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 49/2566 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 24 - 26 เม.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 27 - 28 เม.ย. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 29 - 30 เม.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ ทำให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร คำเตือน ระยะนี้อากาศร้อนถึงร้อนจัด ขอให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานานและดื่มน้ำบ่อยเพื่อป้องกันโรคลมแดด สำหรับเกษตรกรผู้เลี่ยงสัตว์ควรระบายความร้อนภายในโรงเรือนเพื่อลดอุณหภูมิให้แก่สัตว์เลี้ยง รวมทั้งเพิ่มการให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาสม ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 26 เม.ย. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งและไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้งขณะฟ้าคะนอง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 24 - 26 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 - 41 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นต้องทำงานในที่โล่งควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดเพื่อป้องกันผิวไหม้เกรียม และดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับสภาพอากาศที่แห้งในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและที่อยู่อาศัย รวมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืชทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ ตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 24 - 26 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมเฉียงเหนือ กระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 27 - 28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29 - 30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 - 39 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม. - ช่วงนี้จะมีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรอยู่ในที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นต้องอยู่ในที่โล่งแจ้งควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อป้องกันผิวไหม้และร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนโดยฉีดน้ำลงบนหลังคาโรงเรือน และเพิ่มน้ำกินสำหรับสัตว์ให้เพียงพอ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยไม่ควรอยู่ในที่โล่งและปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้งขณะฝนฟ้าคะนอง สำหรับช่วงนี้อากาศแห้งอีกทั้งความชื้นในดินมีน้อย เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน สำหรับฝนที่ตกไม่สม่ำเสมอในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช เช่น ใบอ่อนและยอดอ่อน ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
กลาง ในช่วงวันที่ 25 - 26 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 30 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม. - ระยะนี้จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และควรอยู่ในที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อป้องกันโรคลมแดด ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน เช่น ติดตั้งพัดลมเป่าและดูดอากาศภายในโรงเรือน และ ฉีดน้ำลงบนหลังคาโรงเรือน เป็นต้น สำหรับระยะนี้ความชื้นในดินมีน้อย เกษตรกรควรเพิ่มการให้น้ำแก่พืชและคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในระยะนี้ ควรดูแลสภาพน้ำให้เหมาะสมกับชนิดของสัตว์น้ำที่เลี้ยง รวมทั้งดูแลจำนวนสัตว์น้ำให้สมดุลกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ ระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกระทู้ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ ตะวันออก ในช่วงวันที่ 24 - 26 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับ
มีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25 - 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 30 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม. - ระยะนี้จะมีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยในช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยสำรวจและดูแลวัสดุที่ผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรง ระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกระทู้ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในระยะนี้ ควรดูแลสภาพน้ำให้เหมาะสมกับชนิดของสัตว์น้ำที่เลี้ยง รวมทั้งดูแลจำนวนสัตว์น้ำให้สมดุลกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สัตว์น้ำอยู่อย่างแออัด ส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเติมออกซิเจนให้แก่น้ำ ใต้ ฝั่งตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 25 - 26 และ 29 - 30 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 23 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 38 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม. ฝั่งตะวันตก อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % - ระยะนี้มีอากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับสภาพอากาศที่แห้งในระยะนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยโดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะสวนยางพาราควรหลีกเลี่ยงการจุดไฟหากมีความจำเป็นต้องติดไฟควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน และด้วง โดยเฉพาะหนอนกระทู้ ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก หนอนหน้าแมวในปาล์มน้ำมัน รวมทั้งด้วงงวงและด้วงแรดในมะพร้าว เป็นต้น สำหรับระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อยและน้ำระเหยมีมากโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรคลุมดิน และเพิ่มการให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสมรวมทั้งควรใช้น้ำอย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรงเพื่อป้องกันสภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หากต้องการผันน้ำเข้าบ่อควรเก็บไว้ในบ่อพักก่อนปล่อยเข้าสู่บ่อเลี้ยง NT ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 17 - 23 เมษายน 2566 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนตลอดสัปดาห์ ทำให้มีอากาศร้อนอบอ้าวทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ สำหรับฝนในสัปดาห์นี้ประเทศไทยตอนบนได้รับอิทธิพลจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีลมฝ่ายตะวันตกและลมใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว โดยในวันสุดท้ายของสัปดาห์มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ส่วนภาคใต้มีฝนเกือบตลอดสัปดาห์จากอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเกือบตลอดสัปดาห์
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนจัดเกือบทั่วไปตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 5-60 พื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 22 เม.ย. และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดน่านและเชียงรายในวันที่ 20-21 เม.ย. จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 20, 21 และ 23 เม.ย. จังหวัดแพร่ในวันที่ 21 เม.ย. จังหวัดเพชรบูรณ์ในวันที่ 21 และ 23 เม.ย. จังหวัดพะเยาในวันที่ 21-23 เม.ย. จังหวัดแม่ฮ่องสอนและอุตรดิตถ์ในวันที่ 22 เม.ย. จังหวัดลำปางและลำพูนในวันที่ 22-23 เม.ย. และจังหวัดกำแพงเพชรและตากในวันที่ 23 เม.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนจัดเกือบทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 10-35 ของพื้นที่ในวันที่ 19-22 เม.ย. และมีฝนร้อยละ 65 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในวันสุดท้ายของสัปดาห์ และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดอุดรธานี สกลนคร หนองบัวลำภู บึงกาฬ นครพนม บุรีรัมย์ และเลยในวันที่ 20 เม.ย. จังหวัดหนองคายในวันที่ 20 และ 23 เม.ย. จังหวัดอำนาจเจริญ ขอนแก่น และยโสธรในวันที่ 22 เม.ย. และจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 22-23 เม.ย. ภาคกลาง มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนบางพื้นที่ในวันที่ 17, 18 และ 23 เม.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนทั่วไปทางตอนบนของภาคในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 5-30 ของพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 22 เม.ย. และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดสระแก้วและปราจีนบุรีในวันที่ 22 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 35 ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 19, 22 และ 23 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนเกือบทั่วไป โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ในระยะต้นและกลางสัปดาห์ จากนั้นมีฝนร้อยละ 60-75 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 18, 22 และ 23 เม.ย. และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดพังงาและกระบี่ในวันที่ 22 เม.ย.
สัปดาห์มีรายงานฝนตกหนักบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ อุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา