พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ฉบับที่ 147/2566
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 8 ? 14 ธันวาคม พ.ศ. 2566
ออกประกาศวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2566
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ จะมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีลมตะวันออกพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง กับมีฝนบางแห่งในระยะแรก โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับบริเวณภาคใต้ตอนล่างจะฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาค
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์
เหนือ
ในช่วงวันที่ 9-12 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.
- ระยะนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราแป้งในพืชตระกูลแตง เช่น แตงกวา แตงร้าน แตงโม แตงไทย เมล่อน แคนตาลูป ซูกินี ฟักทอง ฟักเขียว ฟักแม้ว มะระจีน และบวบ เป็นต้น นอกจากนี้ควรระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า
ตะวันออก เฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.
- ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และเตรียมจัดทำแผงกำบังลมหนาวแก่สัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพเนื่องจากอยู่ในช่วงแล้ง
กลาง
ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม.
- ระยะนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนบางแห่ง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหาร เนื่องจากอุณหภูมิที่ลดลงจะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่แหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย อาจทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานหากต้องการปลูกพืชรอบใหม่ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เนื่องจากระยะนี้อยู่ในช่วงแล้งปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย อาจไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช
ตะวันออก
ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ธ.ค. มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม.
- ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพเนื่องจากอยู่ในช่วงแล้ง
ใต้
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 9-14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 10-14 ธันวาคม อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 9-12 ธ.ค. ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค. ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ความยาวนานแสงแดด 3-6 ชม.
ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
- ระยะนี้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก สำหรับผู้เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ นอกจากนี้ควรระวังน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร
RR
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 1 - 7 ธันวาคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเล จีนใต้ กับมีลมฝ่ายตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนเกือบตลอดช่วง ลักษณะดังกล่าวทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปเกือบตลอดช่วง ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นบางพื้นที่ กับมีรายงานฝนตกเกือบตลอดช่วง ในขณะที่ภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นกับมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของภาค กับมีรายงานน้ำท่วมในบางพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย 2
ภาคเหนือ มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปโดยเฉพาะตอนบนของภาค บริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ในระยะต้นช่วง กับมีฝนปานกลางบางแห่งในวันสุดท้ายของช่วง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในระยะครึ่งหลังของช่วงมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป บริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ ในระยะครึ่งแรกของช่วง ภาคกลาง มีอากาศเย็นบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่เกือบตลอดช่วง ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ในวันที่ 4 ธ.ค. โดยมีฝนร้อยละ 5-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 65-85 ของพื้นที่กับมีฝนหนักหลายพื้นที่เกือบตลอดช่วง ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป และมีฝนหนักมากบางแห่งในระยะครึ่งแรกของช่วง นอกจากนี้มีรายงานน้ำท่วมต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริเวณจังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และพัทลุง ในวันที่ 1 - 6 ธ.ค. และมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดยะลา ในวันที่ 1-2 ธ.ค. จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 1-5 ธ.ค. อีกทั้งมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณ จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 1 ธ.ค.และจังหวัดสงขลา ในวันที่ 2 ธ.ค. กับวันที่ 7 ธ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากกว่าร้อยละ 85 ของพื้นที่ในระยะต้นช่วง จากนั้นมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 25-50 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่ง ในระยะครึ่งแรกของช่วง
ช่วงที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัด ชุมพร พัทลุง และนราธิวาส ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ พระนครศรีอยุธยากรุงเทพมหานคร ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา ระนอง พังงา ตรัง และสตูล
สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักและฝนหนักมากที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้
ภาคกลาง
41.2
มม.
ที่
อ.บางไทร
จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันที่
6
ธ.ค.
ภาคใต้
242.2
มม.
ที่
อ.สุไหงปาดี
จ.นราธิวาส
เมื่อวันที่
1
ธ.ค.
กรุงเทพมหานคร
50.0
มม.
ที่
โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช
เขตบางขุนเทียน
เมื่อวันที่
3
ธ.ค.
ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ไม่มีรายงานฝนตกหนัก
สำหรับบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้
ภาคเหนือ
16.8
? ซ.
ที่
อ.อุ้มผาง
จ.ตาก
เมื่อวันที่
6
ธ.ค.
(9.2
? ซ.
ที่
ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง
จ.เชียงใหม่
เมื่อวันที่
2
ธ.ค.)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
16.2
? ซ.
ที่
นครพนม สกษ. อ.เมือง
จ.นครพนม
เมื่อวันที่
7
ธ.ค.
(10.0
? ซ.
ที่
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูง อ.ภูเรือ
จ.เลย
เมื่อวันที่
1
ธ.ค.
ภาคกลาง
20.7
? ซ.
ที่
อ.ทองผาภูมิ
จ.กาญจนบุรี
เมื่อวันที่
1
ธ.ค.
ภาคตะวันออก
20.2
? ซ.
ที่
อ.เมือง
จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่
4
ธ.ค.
ภาคใต้
22.4
? ซ.
ที่
อ.สะเดา
จ.สงขลา
เมื่อวันที่
2
ธ.ค.
และ
ที่
สกษ.หนองพลับ อ.หัวหิน
จ.ประจวบคีรีขันธ์
เมื่อวันที่
6
ธ.ค.
กรุงเทพมหานคร
23.7
? ซ.
ที่
ท่าเรือกรุงเทพ
เขตคลองเตย
เมื่อวันที่
4
ธ.ค.
หมายเหตุ
เกณฑ์ปริมาณฝน ฝนเล็กน้อย ฝนปานกลาง ฝนหนัก ฝนหนักมาก
ปริมาณฝนที่วัดได้ (มม.) 0.1-10.0 10.1-35.0 35.1- 90.0 มากกว่า 90.0
เกณฑ์อากาศหนาว อากาศเย็น อากาศหนาว อากาศหนาวจัด
อุณหภูมิอากาศ(องศาเซลเซียส) 16.0-22.9 8.0-15.9 ต่ำกกว่า 8.0
สอต. หมายถึง สถานีอุตุนิยมวิทยา , กกษ. หมายถึง กลุ่มงานอากาศเกษตร
ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร
กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา 3
ฉบับที่147/2566
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 8 ?14 ธันวาคม 2566
ภาคเหนือ
ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% : ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.
ภาคกลาง ภาคตะวันออก ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% : ความยาวนานแสงแดด 7-10ชม. ภาคใต้ ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90% : ความยาวนานแสงแดด 3-6 ชม. 28-34 16-23 29-35 18-24 31-35 21-26 31-35 20-25 28-34 22-26 ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% : ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิ ลักษณะอากาศ คลื่นลม ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร 02-399-2387 ; 02-366-9336 ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75% : ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม. ~1 ม. ไม่ควร !ให้น้ำฝนตกบนดินไหลลงบ่อ ~2 ม. ควร ! ควบคุมอุณหภูมิ ภายในโรงเรือน อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ควร ! ให้อาหารสัตว์น้ำอย่างเหมาะสม (ช่วงอากาศเย็นสัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย) ระวัง ! ศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ระวัง ! โรคราแป้งในพืชตระกูลแตง ควร !ทำทางระบายน้ำออก ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา