พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 15 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียสในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับบริเวณยอดดอยของภาคเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 11 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ส่วนยอดภูของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 16 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ในช่วงวันที่ 9 ? 12 ม.ค. 67 หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 13 ? 15 ม.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 ? 11 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 14 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น ส่วนประชาชนในภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนัก สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง ออกประกาศ 09 มกราคม 2567 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 9 ? 15 มกราคม พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 9 ? 11 ม.ค. 67
ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.
ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 12 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 15 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ลมตะวันตก ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.
ตอนล่างของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 13 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 ? 34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 11 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 9 ? 11 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 - 17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 12 - 15 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส
ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
ตอนล่างของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 25 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 9 ? 12 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 ม.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 9 ? 12 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 ม.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 9 ? 12 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 13 ? 15 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 9 ? 12 ม.ค. 67 มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 15 ม.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ออกประกาศ 09 มกราคม 2567 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา