พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 15 ? 18 ม.ค.67 ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร โดยในช่วงวันที่ 15 ? 18 ม.ค. 67 ประชาชนในภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง ออกประกาศ 12 มกราคม 2567 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 12 ? 18 มกราคม พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 13 ? 18 ม.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในช่วงวันที่ 13 ? 17 ม.ค. 67
หลังจากนั้นอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 13 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 13 - 16 ม.ค. 67 โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในช่วงวันที่ 14 ? 16 ม.ค. 67
ส่วนในวันที่ 17 - 18 ม.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 15 ? 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 13 - 18 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 13 - 18 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 13 ? 14 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 15 ? 18 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 13 - 18 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม.
ออกประกาศ 12 มกราคม 2567 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา