พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 18 - 24 มกราคม พ.ศ. 2567

ข่าวทั่วไป Thursday January 18, 2024 13:58 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 18 - 24 มกราคม พ.ศ. 2567

ในช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 24 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส

สำหรับในช่วงวันที่ 18 - 22 ม.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 24 ม.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่าง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็นในตอนเช้า รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนในช่วงวันที่ 22 - 24 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ออกประกาศ 18 มกราคม 2567 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 18 ? 24 มกราคม พ.ศ. 2567

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 18 ? 22 ม.ค. 67 ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 12 ? 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.

ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 ? 2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 23 ? 24 ม.ค. 67 ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 ? 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.

ตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 25 กม./ชม.

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 14 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 18 ? 21 ม.ค. 67 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 ? 2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 15 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 22 - 24 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส

โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 18 ? 21 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 ? 3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 22 - 24 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส

โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 ? 3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในวันที่ 22 - 24 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส

โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 19 ? 22 ม.ค. 67 ตอนบนของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 23 ? 24 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่าง

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 18 ? 22 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 23 ? 24 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 67 มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 ? 3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 22 - 24 ม.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส

โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 25 กม./ชม.

ออกประกาศ 18 มกราคม 2567 12:00 น.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ