พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
คาดหมายอากาศทั่วไป
ระหว่างวันที่ 6 ? 12 มีนาคม พ.ศ. 2567
ในช่วงวันที่ 6 - 7 มี.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 12 มี.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ในระยะแรก
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศร้อนถึงร้อนจัด ในช่วงวันที่ 6 ? 8 มี.ค.67
โดยในช่วงวันที่ 8 - 10 มี.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ออกประกาศ 06 มีนาคม 2567 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 6 ? 12 มีนาคม พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 ? 8 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 15 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 ? 15 กม./ชม.
ส่วนช่วงในวันที่ 9 ? 10 มี.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่งส่วนมากตอนล่างของภาค
และในช่วงวันที่ 11 - 12 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ส่วนมากตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 40 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 ? 7 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 ? 41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ส่วนช่วงในวันที่ 8 - 10 มี.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และในช่วงวันที่ 11 - 12 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 6 ? 7 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 42 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ส่วนช่วงในวันที่ 8 ? 10 มี.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และในช่วงวันที่ 11 - 12 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 6 ? 7 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนช่วงในวันที่ 8 - 10 มี.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และในช่วงวันที่ 11 - 12 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 6 ? 8 มี.ค. 67 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนช่วงในวันที่ 9 ? 12 มี.ค. 67 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนที่มีฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 38 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 6 ? 8 มี.ค. 67
ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่ จ.กระบี่ ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนช่วงในวันที่ 9 ? 12 มี.ค. 67
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 38 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 6 ? 7 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 10 มี.ค. 67 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และในช่วงวันที่ 11 - 12 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ออกประกาศ 06 มีนาคม 2567 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา