พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
คาดหมายอากาศทั่วไป
ระหว่างวันที่ 12 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2567
ในช่วงวันที่ 13 - 17 มี.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง หลังจากนั้น บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด รวมถึงลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังอ่อนลงในช่วงวันที่ 12 - 17 มี.ค. 67 แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11 - 12 มี.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง
ออกประกาศ 12 มีนาคม 2567 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 12 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 12 - 18 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 16 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 - 42 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 13 - 17 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 18 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 40 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 13 - 18 มี.ค. 67 อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 42 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 13 - 18 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26 - 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 37 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 38 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 13 - 18 มี.ค. 67 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27 - 30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ออกประกาศ 12 มีนาคม 2567 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา