พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ข่าวทั่วไป Friday July 26, 2024 14:20 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ออกประกาศวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 90/2567 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ทางด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค. จะมีร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ทางด้านตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ความยาวนานแสงแดด 1-4 ชม. - ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา นอกจากนี้ควรระวังน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร ตะวันออก ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค. เฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 2-5 ชม. - ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรซ่อมแซมหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้มีรอยรั่วซึมและทำแผงกำบังฝนและลมให้แก่สัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ควรระวังโรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า และโรคตาแดง เป็นต้น

กลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกของภาค ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ความยาวนานแสงแดด 1-4 ชม. - ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ นอกจากนี้ควรระวังน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร ตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้

28 ก.ค. - 1 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงความยาวนานแสงแดด 1-4 ชม. - ในช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและโรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า และโรคตาแดง เป็นต้น ใต้ ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 3-6 ชม. ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา: ลมตะวันตกตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % - ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สำหรับผู้เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ RR ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 19 - 25 กรกฎาคม 2567 ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบนในระยะครึ่งแรกของช่วง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลางเกือบตลอดช่วง กับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมชายฝั่งของภาคตะวันออกและอ่าวไทยในวันที่ 20 ก.ค. ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่นเกือบตลอดช่วง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกและมีรายงานน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝน ส่วนมากในระยะครึ่งแรกของช่วง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "พระพิรุณ" (PRAPIROON, 2404) เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. จากนั้นได้เคลื่อนผ่านเกาะไหหลำลงสู่อ่าวตังเกี๋ยแล้วเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองก๋วงนินห์ ประเทศเวียดนามตอนบน เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 23 ก.ค. ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ตามลำดับ

ภาคเหนือ มีฝนมากกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนหนักมากบางแห่งในวันแรกและในระยะปลายช่วง กับมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 19 และวันที่ 21-22 ก.ค. จังหวัดพะเยา พิษณุโลก และแพร่ ในวันที่ 19 ก.ค. จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 19 และวันที่ 20-21 ก.ค. และจังหวัดตาก ในวันที่ 25 ก.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนร้อยละ 35-70 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางพื้นที่เกือบตลอดช่วง และมีฝนหนักมากบางแห่ง ในวันที่ 20 ก.ค. โดยมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดมหาสารคาม เลย และขอนแก่น ในวันที่ 19 ก.ค. จังหวัดชัยภูมิ ในวันที่ 19 ก.ค. จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันที่ 20-21 ก.ค. และจังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 21 ก.ค. นอกจากนี้มีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเลย ในวันที่ 20 ก.ค. ภาคกลาง มีฝนมากกว่าร้อยละ 75 ของพื้นที่ เว้นแต่วันที่ 19 วันที่ 22 และวันที่ 24 ก.ค. มีฝนร้อยละ 30-50 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และฝนหนักมากบางแห่ง ในวันที่ 24 ก.ค. กับมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 25 ก.ค. ภาคตะวันออก มีฝนมากกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง โดยมีฝนหนักมากบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณชายฝั่งตอนล่างของภาคในระยะครึ่งแรกของช่วง กับมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดจันทบุรี ในวันที่ 20-23 ก.ค. และจังหวัดตราด ในวันที่ 21-23 ก.ค. นอกจากนี้มีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดตราด ในวันที่ 25 ก.ค.ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนร้อยละ 45-60 ของพื้นที่ ในระยะต้นช่วงและในวันที่ 23 ก.ค. ส่วนวันอื่นๆ มีฝนร้อยละ 5-25 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 20 และวันที่ 23-24 ก.ค. นอกจากนี้มีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 23 ก.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนร้อยละ 35-50 ของพื้นที่ ในระยะครึ่งแรกของช่วง โดยเฉพาะในวันที่ 20 ก.ค. มีฝนร้อยละ 85 ของพื้นที่ จากนั้นมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของช่วง โดยมีฝนหนักบางแห่ง ในวันที่ 23-24 ก.ค.

ในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน ตาก อุบลราชธานี กาญจนบุรี นครนายก จันทบุรี และตราด ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ ลพบุรี กรุงเทพมหานคร นครปฐม ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง และตรัง

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ