ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 14 พฤษภาคม 2551 - 20 พฤษภาคม 2551
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค และในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เกษตรกรที่อยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก ควรเฝ้าระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ชาวสวนควรตัดแต่งกิ่งและเก็บผลที่ร่วง ไปทำลายเพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมโรงเรือน เพื่อป้องกันฝนสาด ซึ่งจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนพืชไร่ เช่น ข้าวโพดและอ้อยควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 14-15 และ 19-20 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และในช่วงวันที่ 16-18 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เกษตรกรบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรีควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่า ไหลหลาก เนื่องจากระยะนี้มีสภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของ โรคที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคไหม้ ซึ่งจะทำให้ต้นข้าวตายได้
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 14-15 และ 19-20 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และในช่วงวันที่ 16-18 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด เกษตรกรจึงควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ฝนที่ตกชุก ในระยะนี้จะทำให้ไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยวเกิดผลผลิตเน่าเสียได้ อนึ่ง ระยะนี้ ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วน ทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และ ภูเก็ตควรระวังอันตรายและป้องกันความสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มควรเตรียมทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก อนึ่ง ในระยะนี้ คลื่นลมยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวประมงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)ข้างบนแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-