พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567

ข่าวทั่วไป Monday November 25, 2024 15:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า 25 พฤศจิกายน ? 1 ธันวาคม 2567

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ฉบับที่ 142/2567

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน ? 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. และ 1 ธ.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยตอนล่างและประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก สำหรับภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. อ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาค

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

เหนือ

ในช่วงวันที่ 25-27 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 พ.ย. ? 1 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม.

- ระยะนี้ความชื้นในอากาศยังคงมีสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว และผักกาดหอม เป็นต้น นอกจากนี้ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เนื่องจากอุณหภูมิเริ่มลดลง

ตะวันออก เฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอด

ภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้น

สัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม.

- ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นกับมีลมแรง เกษตรกรควรทำแผงกำบังลมให้แก่สัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำ

ทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ

กลาง ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศา

เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27

พ.ย. ? 1 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศา

เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์

65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม.

- สำหรับในช่วงที่ผ่านมา ในบริเวณที่มีน้ำ ท่วม หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้

ดีดังเดิม นอกจากนี้ควรระวังโรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม เช่น โรคเครียด โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และโรคอุจจาระ

ร่วง เป็นต้น

ตะวันออก ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค. อากาศเย็นใน

ตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33

องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม.

- ในช่วงนี้จะมีฝนเล็กน้อยบางแห่งกับมีลมแรง เกษตรกรควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง นอกจากนี้ควรดูแลสวน

ให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ใต้ ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด

23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. และ 1 ธ.ค. ตั้งแต่จังหวัด

นครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้า

คะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมี

คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. ตั้งแต่จังหวัด

นครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้า

คะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมี

คลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ความยาวนานแสงแดด

3-5 ชม.

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. และ

1 ธ.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝน

ฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง

ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-

27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ความยาวนานแสงแดด 4-6 ชม.

- ระยะนี้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหาย

จากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ

เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อ

ป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ นอกจากนี้ควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก

RR

2

ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 18 ? 24 พฤศจิกายน 2567 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ตลอดสัปดาห์ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดสัปดาห์ โดยมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงในระยะกลางและปลายสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นโดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของภาคมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในระยะกลางกลางและปลายสัปดาห์

ภาคเหนือ มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปและมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในบริเวณจังหวัดตากเกือบตลอดสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 5-35 ของพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นเกือบทั่วไป สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ ในวันที่ 19-20 พ.ย. กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 20 พ.ย. ภาคกลาง มีอากาศเย็นบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่ ในวันที่ 18-19 พ.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ กับมีอากาศเย็นบริเวณเทือกเขาตลอดช่วง โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ ในวันที่ 19 และวันที่ 22 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยมีฝนร้อยละ 55 ของพื้นที่ ในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 75-85 ของพื้นที่ และมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ กับมีรายงานน้ำท่วมบริเวณชุมพร ในวันที่ 21-23 พ.ย. จังหวัดพัทลุง ในวันที่ 21-24 พ.ย. จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 22-24 พ.ย. นอกจากนี้มีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา ในวันที่ 21 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 65 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งในวันที่ 20-23 พ.ย.

ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และตรัง ส่วนจังหวัดที่มีฝนหนัก ได้แก่ อุบลราชธานี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี ยะลา และระนอง

สำหรับบริเวณที่มีฝนหนักและหนักมากที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

35.6

มม.

ที่

อ.เดชอุดม

จ. อุบลราชธานี

เมื่อวันที่

20

พ.ย.

ภาคใต้

241.2

มม.

ที่

อ.สายบุรี

จ.ปัตตานี

เมื่อวันที่

22

พ.ย.

ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร ไม่มีรายงานฝนตกหนัก

สำหรับบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้

ภาคเหนือ

12.9

? ซ.

ที่

อ.อุ้มผาง

จ.ตาก

เมื่อวันที่

23

พ.ย.

(7.0

? ซ.

ที่

ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง

จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่

23

พ.ย.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

17.2

? ซ.

ที่

อ.เมือง

จ.เลย

เมื่อวันที่

21

พ.ย.

(12.0

? ซ.

ที่

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ

จ.เลย

เมื่อวันที่

22

พ.ย.

ภาคกลาง

20.5

? ซ.

ที่

ต.ทองผาภูมิ

จ.กาญจนบุรี

เมื่อวันที่

19

พ.ย.

ภาคตะวันออก

21.8

? ซ.

ที่

กกษ.ฉะเชิงเทรา อ.สนามชัยเขต

จ.ฉะเชิงเทรา

เมื่อวันที่

19

พ.ย.

ภาคใต้

21.5

? ซ.

ที่

กกษ.หนองพลับ อ.หัวหิน

จ.ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อวันที่

19

พ.ย.

กรุงเทพมหานคร

24.8

? ซ.

ที่

สนามบินดอนเมือง

เขตดอนเมือง

เมื่อวันที่

20,22

พ.ย.

หมายเหตุ

เกณฑ์ปริมาณฝน ฝนเล็กน้อย ฝนปานกลาง ฝนหนัก ฝนหนักมาก

ปริมาณฝนที่วัดได้ (มม.) 0.1-10.0 10.1-35.0 35.1- 90.0 มากกว่า 90.0

เกณฑ์อากาศหนาว อากาศเย็น อากาศหนาว อากาศหนาวจัด

อุณหภูมิอากาศ(องศาเซลเซียส) 16.0-22.9 8.0-15.9 ต่ำกกว่า 8.0

สอต. หมายถึง สถานีอุตุนิยมวิทยา, กกษ. หมายถึง กลุ่มงานอากาศเกษตร

ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร

กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา 3

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 25 พ.ย. ?1 ธ.ค. 67

ฉบับที่ 142/2567

ภาคเหนือ

ภาคตะวันออก

เฉียงเหนือ

ภาคกลาง

ภาคตะวันออก

ภาคใต้

ฝั่งตะวันออก

ฝั่งตะวันตก

16-25

29-36

16-25

27-35

19-26

29-35

20-27

30-35

23-27

28-34

24-27

28-33

1.4-5.6

2.8-8.3

2.8-8.3

4.2-9.7

4.2-11.1

4.2-9.7

70-80

65-75

65-75

65-75

80-90

80-90

7-9

7-9

7-9

7-9

3-5

4-6

60-70%

หนัก

-ประเทศไทยตอนบน อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

-ภาคใต้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

27-30 พ.ย. อ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ความยาวนานแสงแดด

m/s

ความชื้นสัมพัทธ์

%

hr

-ระวังโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลกะหล่ำและผักกาด

-เพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือน

-ทำแผงกันลมให้แก่สัตว์เลี้ยง

-วางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ

-ฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำหลังระดับน้ำลด

-ควรระวังโรคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม เช่น โรคเครียด โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และโรคอุจจาระร่วง เป็นต้น

-ควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง

-ระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

-ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

-ไม่ควรให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ

-ระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้

ภาคตะวันออก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ภาคกลาง

ภาคเหนือ

60-80%

.

กรมอุตุนิยมวิทยา

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร

http://www.arcims.tmd.go.th/

02-399-2387, 02-366-9336

ข่าวพยากรณ์อากาศ

เพื่อการเกษตร

หนักถึงหนักมาก

คาดหมาย

อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย(๐ซ.)00.151020356090120150200300400600

คาดหมาย

ฝนสะสม 7 วัน(มม.)

E

ควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือน

ควร ฟื้นฟูสวนและแหล่งน้ำ

โรคพืชจากเชื้อรา

ไม่ควร ให้น้ำฝนตกบนดินไหลลงบ่อ

ควร รักษาสุขภาพให้แข็งแรง

ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ