พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 27 พ.ย. ? 3 ธ.ค. 67 ฉบับที่ 143/2567 ภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตก 18-24 28-35 15-24 28-34 19-25 30-35 19-26 30-35 23-26 28-33 23-26 30-34 3-7 3-8 3-8 4-10 4-10 4-10 70-80 65-75 70-80 70-80 85-95 85-95 6-9 7-9 6-9 6-9 4-6 4-7 60-70% ขอให้เกษตรกร บริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ ระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้าท่วมฉับพลัน น้าป่าไหลหลากได้ สาหรับบริเวณอ่าวไทนตอนล่าง เรือเล็กงดออก จากฝั่งในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย.67 ความยาวนานแสงแดด m/s ความชื้นสัมพัทธ์ % hr. - ดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลง - ควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนสัตว์ปีก - วางแผนการใช้น้าอย่างประหยัด - ดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลง - ระวัง ศัตรูพืชจาพวกหนอน - ระวัง อัคคีภัย เนื่องจากอากาศที่แห้งและ มีลมแรง - ดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลง - ระวัง ศัตรูพืชจาพวกปากดูด (เพลี้ยและไร) - หมั่นสารวจดูแลสัตว์ปีก - ระวัง ศัตรูพืชจาพวกปากดูด เช่น เพลี้ย - วางแผนการใช้น้าอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ - ระวัง น้าท่วมฉับพลัน น้าป่าไหลหลาก - อพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูง น้าท่วมไม่ถึง - ระวัง โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา - อ่าวไทยตอนล่าง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ในช่วง 27-30 พ.ย.67 ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ อากาศเปลี่ยนแปลง ดูแลสุขภาพ ควบคุมอุณหภูมิ ในโรงเรือน วางแผนน้าไว้ใช้ ระวัง ศัตรูพืชจาพวกปากดูด ระวัง โรคพืชจากเชื้อรา 60-80% อ่าวไทยตอนล่าง คลื่นลมแรง . กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร http://www.arcims.tmd.go.th/ 02-399-2387, 02-366-9336 ข่าวพยากรณ์อากาศ เพื่อการเกษตร E คาดหมาย อุณหภูมิต่าสุดเฉลี่ย (๐ซ.) หนักถึงหนักมาก คาดหมาย ฝนสะสม 7 วัน (มม.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 143/2567 / พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ? 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ออกประกาศวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ภาคกลางและภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับในช่วงวันที่ 27?30 พ.ย. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนกลางและตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนกลางและตอนล่างมีฝนลดลง คาเตือน บริเวณประเทศไทยตอนบน ขอให้เกษตรกรดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 30 พ.ย. 67 คาแนะนาสาหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในช่วงวันที่ 27 พ.ย.?1 ธ.ค.67 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค.67 อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม. - ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค.67 อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง ส่วนบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เย็นลง ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง ตะวันออก เฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค. 67 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 67 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค.67 อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาว เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งระวังการเกิดอัคคีภัย เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ นอกจากนี้ควรระวังศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกระทู้ในข้าวโพด หนอนแมลงวันเจาะต้นถั่วในถั่วเขียว เป็นต้น 2 กลาง ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค.67 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 67 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม. - ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค.67 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งควรระวังการแพร่ระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้พืชทรุดโทรมผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรหมั่นสำรวจดูแลสัตว์เลี้ยง หากพบมีอาการป่วยให้รีบแยกออกมารักษา เนื่องจากในสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงมักจะทำให้สัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยได้ง่าย ตะวันออก ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2-3 ธ.ค. 67 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม. - ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค.67 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งควรระวังการแพร่ระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร ต่างๆ ซึ่งมักแพร่ระบาดในสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง นอกจากนี้เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง ใต้ ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 27 พ.ย. ? 1 ธ.ค. 67 ตอนบนของภาค : อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ตอนกลางและตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไป : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21?25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25?32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลา ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2?3 ธ.ค. 67 ตอนบนของภาค : เมฆบางส่วน และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ตอนกลางและตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงไป : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23?26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28?33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ จังหวัดชุมพร ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 85-95% ความยาวนานแสงแดด 4-6 ชม. ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 ธ.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 85-95% ความยาวนานแสงแดด 4-7 ชม. - ระยะนี้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับในสภาวะอากาศที่มีฝนตกชุก เกษตรกรควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบยางร่วงลูกยางเน่าในยางพารา โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคแอนแทรคโนสในกาแฟ เป็นต้น ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควร อพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในสูงน้ำท่วมไม่ถึง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 27-30 พ.ย.67 บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กงดออกจากฝั่ง 3 ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 20 ? 26 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี และระนอง สาหรับบริเวณที่มีฝนหนักและหนักมากที่สุดตามภาคต่างๆและและกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 35.6 มม. ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ภาคใต้ 504.6 มม. ที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ภาตเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานครไม่มีรายงานฝนตกหนัก สาหรับบริเวณที่มีอุณหภูมิต่าที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ ภาคเหนือ 12.9 ? ซ. ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 23 พ.ย. (7.0 ? ซ. ที่ ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17.2 ? ซ. ที่ อ.เมือง จ.เลย เมื่อวันที่ 21 พ.ย. (12.0 ? ซ. ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย เมื่อวันที่ 22 พ.ย.) ภาคกลาง 20.8 ? ซ. ที่ ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. และ ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22,23 พ.ย. ภาคตะวันออก 22.0 ? ซ. ที่ กกษ.ฉะเชิงเทรา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ภาคใต้ 22.4 ? ซ. ที่ กกษ.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. และ ที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. กรุงเทพมหานคร 24.8 ? ซ. ที่ ท่าอากาศยานกรุงเทพ เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 20,22 พ.ย. หมายเหตุ : เกณฑ์ปริมาณฝน ฝนเล็กน้อย ฝนปานกลาง ฝนหนัก ฝนหนักมาก ปริมาณฝนที่วัดได้ (มิลลิเมตร) 0.1-10.0 10.1-35.0 35.1- 90.0 มากกว่า 90.0 เกณฑ์อากาศหนาว อากาศเย็น อากาศหนาว อากาศหนาวจัด อุณหภูมิอากาศ(องศาเซลเซียส) 16.0-22.9 8.0-15.9 ต่ำกกว่า 8.0 สอต. หมายถึง สถานีอุตุนิยมวิทยา, กกษ. หมายถึง กลุ่มงานอากาศเกษตร ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา PK
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา