พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
คาดหมายอากาศทั่วไป
ระหว่างวันที่ 13 - 19 มกราคม พ.ศ. 2568
ในช่วงวันที่ 14 - 15 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16 ? 19 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 14 - 15 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 19 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
ออกประกาศ 13 มกราคม 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 13 ? 19 มกราคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 14 - 16 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 ? 31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17 ? 19 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12 ? 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 ? 30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 8 ? 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 13 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17 ? 19 ม.ค. 68 อากาศหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 8 ? 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 28 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17 ? 19 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร โดยในช่วงวันที่ 17 ? 19 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 15 - 19 ม.ค. 68 โดยในช่วงวันที่ 14 ? 16 ม.ค. 68 ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 14 ? 15 และ 19 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร โดยในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 13 ? 14 และ 19 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 15 ? 18 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14 ? 16 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17 ? 19 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 ? 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ออกประกาศ 13 มกราคม 2568 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา