พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
คาดหมายอากาศทั่วไป
ระหว่างวันที่ 16 - 22 มกราคม พ.ศ. 2568
ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2 ? 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19 ? 22 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2 - 5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19 ? 22 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ออกประกาศ 16 มกราคม 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 16 ? 22 มกราคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 17 ? 18 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 9 ? 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 ? 31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2 - 8 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11 ? 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 ? 33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 ? 5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 9 ? 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 ? 5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 17 ? 18 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 17 ? 18 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณตอนล่างของภาคในวันที่ 16 ม.ค. 68
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 ? 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 16 ? 17 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 ? 22 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 17 ? 18 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ออกประกาศ 16 มกราคม 2568 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา