พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ข่าวทั่วไป Wednesday February 5, 2025 14:07 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ออกประกาศวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 16/2568 การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้จะ/ มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร คำเตือน ขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.พ.68 เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ.68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 8-10 ชม. - ในสภาพที่มีหมอกและหมอกหนาในตอนเช้า ส่วนในตอนกลางวันมีแดดจัด เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างในพืชผักตระกูลแตง กะหล่ำ และผักกาด โรคราสนิมในพืชตระกูลถั่ว มะเขือเทศ และพริก เป็นต้น และไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ นอกจากนี้ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่หมอกตะวันออก ในช่วงวันที่ 6 และ 11 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 เฉียงเหนือ องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 8-10 ชม. - ในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ.68 อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ปีกควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน สำหรับสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง เกษตรกรควรระวังการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ กลาง ในช่วงวันที่ 6-8 และ 11 ก.พ. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ในช่วงวันที่ 6-8 และ 11 ก.พ.68 อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกและหมอกหนาในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง โรคราสนิม โรคราดำ เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจทำให้เปียกชื้นเสียหายได้ ส่วนในช่วงวันที่ 9-10 ก.พ.68 อุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง เกษตรกรควรระวังการเกิดอัคคีภัย สำหรับในสภาวะอากาศที่มีแดดจัดในตอนกลางวันทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกและโคนต้นพืช เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดิน ตะวันออก

ในช่วงวันที่ 6-7 และ 11 ก.พ. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ในช่วงวันที่ 6-7 และ 11 ก.พ. 68 จะมีหมอกในตอนเช้า และหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรตัดแต่งกิ่งและทรงพุ่มให้โปร่ง แสงแดดส่องถึง เพื่อลดผลกระทบและลดความรุนแรงของโรคที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ.68 อุณหภูมิจะลดลง ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีลมแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรหรือเศษวัชพืช เพราะอาจลุกลามจนเป็นอัคคีภัยได้ สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรปรับลดปริมาณการเลี้ยงลงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ เพราะในสภาพอากาศที่มีแดดจัดในตอนกลางวันจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสุขภาพของสัตว์น้ำโดยตรง ใต้ ฝั่งตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตั้งแต่ จ. สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ในช่วงวันที่ 8-11 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 18-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม. ฝั่งตะวันตก อากาศเย็นในตอนเช้า ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม. - มีอากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างจะยังคงมีฝนได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดและหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรปรับลดปริมาณการเลี้ยงลงให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ เพราะในสภาพอากาศที่มีแดดจัดในตอนกลางวันจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสุขภาพของสัตว์น้ำโดยตรง นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังการเกิดอัคคีภัย เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ในช่วงวันที่ 8-11ก.พ.68 จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กงดออกจากฝั่ง

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ