พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว?งวันที่ 17 - 23 กุมภาพันธ? พ.ศ. 2568
ออกประกาศวันจันทร?ที่ 17 กุมภาพันธ? พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ออกประกาศวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 21/2568 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน จะมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่เกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณทีมีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร คำเตือน ในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. 68 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจเกิดฟ้าผ่าได้ เกษตรกรควรระวัง
อันตรายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในช่วงวันที่ 18-23 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้าและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างและด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ระยะนี้จะมีอากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยในไม้ผลและพืชผัก รวมทั้งระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่า ตะวันออก ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เฉียงเหนือ ส่วนมากทางตอนล่างและด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรทำแผงกำบังลมและฝนให้แก่สัตว์เลี้ยง รวมทั้งระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่า กลาง ในช่วงวันที่ 18-22 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ ตะวันออก ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน นอกจากนี้ควรผูกยึดค้ำยันกิ่งไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง ใต้ ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 18-21 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 18-22 ก.พ. ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในวันที่ 23 ก.พ. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-7 ชม. ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 18-22 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในวันที่ 23 ก.พ. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 6-8 ชม. - ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยในพื้นที่ซึ่งมีฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ส่วนบริเวณที่มีฝนตกต่อเนื่อง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย หลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ นอกจากนี้ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา RR ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 10 - 16 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีกำลังอ่อนลง โดยลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. 68 ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวในหลายพื้นที่ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ กับมีฝนบางพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ สำหรับภาคใต้มีอากาศเย็นส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค กับมีฝนบางพื้นที่จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัด ปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้
ภาคเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเกือบทั่วไปในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนบางพื้นที่ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ภาคกลาง มีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขามีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับฝนหนักบางพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยมีฝนบางพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นบางพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนบางพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์
สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกในจังหวัดตราด และบริเวณภาคใต้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สำหรับปริมาณฝนมากที่สุด วัดได้ 70.0 มิลลิเมตร ที่อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา