พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม พ.ศ. 2568

ข่าวทั่วไป Tuesday February 25, 2025 13:19 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม พ.ศ. 2568 ในวันที่ 25 ก.พ. 68 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณทีมีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. ? 3 มี.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีอากาศร้อนตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดช่วง ส่วนในวันที่ 25 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 26 ก.พ. 68

ออกประกาศ 25 กุมภาพันธ์ 2568 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ? 3 มีนาคม พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ ในวันที่ 25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. ? 3 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างและด้านตะวันออกของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 38 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 25 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 31 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. ? 3 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างและด้านตะวันตกของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 37 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคกลาง ในวันที่ 25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ? 40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. ? 3 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม

ภาคตะวันออก ในวันที่ 25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. ? 3 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 ? 38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 25 ? 26 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ? 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 32 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 ก.พ. ? 3 มี. ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในวันที่ 25 - 26 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ? 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 ก.พ. ? 3 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล ในวันที่ 25 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.พ. ? 3 มี.ค. มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ออกประกาศ 25 กุมภาพันธ์ 2568 12:00 น.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ