พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 5 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2568

ข่าวทั่วไป Wednesday March 5, 2025 14:39 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 5 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2568

ในวันที่ 6 - 8 มี.ค. 68 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 11 มี.ค. 68 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง ในช่วงวันที่ 6 - 7 มี.ค. 68 ลมตะวันออกกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 11 มี.ค. 68 ลมตะวันออกกำลังปานกลางปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ในวันที่ 6 - 8 มี.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 11 มี.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดและควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน

สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

ออกประกาศ 05 มีนาคม 2568 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 5 ? 11 มีนาคม พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 6 - 8 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 37 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 11 มี.ค. มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 41 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 6 - 8 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 11 มี.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 - 40 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 6 และ 9 ? 11 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 ? 40 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม

ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 6 ? 8 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 11 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 6 ? 7 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 6 ? 7 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตรและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 6 และ 9 ? 11 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 39 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 7 ? 8 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 -60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม

ออกประกาศ 05 มีนาคม 2568 12:00 น.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ