พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
คาดหมายอากาศทั่วไป
ระหว่างวันที่ 7 - 13 มีนาคม พ.ศ. 2568
ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอากาศจะคลายความร้อนลง ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ในขณะที่ในช่วงวันที่ 11 ? 13 มี.ค. มีแนวลมพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง
ในช่วงวันที่ 7 ? 13 มี.ค. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดและควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน
สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง
ออกประกาศ 07 มีนาคม 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 7 ? 13 มีนาคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 17 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 11 ? 13 มี.ค.
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 11 ? 13 มี.ค.
อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 7 ? 8 มี.ค. พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10 ? 13 มี.ค.
อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 7 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 7 - 8 มี.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 7 ? 8 มี.ค. พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ส่วนในช่วงวันที่ 9 ? 13 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 11 ? 13 มี.ค.
อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ออกประกาศ 07 มีนาคม 2568 12:00 น.
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา