พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2568

ข่าวทั่วไป Wednesday March 12, 2025 13:45 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 12 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2568

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 มี.ค. แนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ในช่วงวันที่ 14 ? 15 มี.ค. ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 16 ? 18 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะคลายความร้อนลง

สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 12 ? 16 มี.ค. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17 ? 18 มี.ค. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 17 ? 18 มี.ค. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 13 และ 16 - 17 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

ออกประกาศ 12 มีนาคม 2568 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 12 ? 18 มีนาคม พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 40 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 16 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 42 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

และในช่วงวันที่ 17 ? 18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง

อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 14 ? 15 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

และในช่วงวันที่ 16 ? 18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 19 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 มี.ค. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 16 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม

และในช่วงวันที่ 17 ? 18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 15 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 39 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

และในช่วงวันที่ 16 ? 18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 12 - 16 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

และในช่วงวันที่ 17 ? 18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 12 - 14 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 15 ? 18 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 12 ? 13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 16 มี.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 ? 39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

และในช่วงวันที่ 17 ? 18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ออกประกาศ 12 มีนาคม 2568 12:00 น.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ