พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -6 เมษายน พ.ศ. 2568
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 1 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 2 ? 4 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 5 ? 6 เม.ย. แนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 1 ? 4 เม.ย. จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนผ่านอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และมีลมกระโชกแรงบริเวณภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 5 ? 6 เม.ย. ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 1 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย และในช่วงวันที่ 1 ? 4 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ออกประกาศ 31 มีนาคม 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -6 เมษายน พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 4 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 4 เม.ย. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในช่วงวันที่ 5 - 6 เม.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 2 ? 3 เม.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 1 ? 4 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 1 ? 3 เม.ย.
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 5 ? 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 ? 35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 1 และ 5 ? 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 2 ? 4 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. ? 1 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 6 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ออกประกาศ 31 มีนาคม 2568 12:00 น.
เนื้อหาในหน้านี้
คาดหมายอากาศ 7 วันแบบอินโฟกราฟิก
คาดหมายอากาศทั่วไป
คาดหมายอากาศรายภาค
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา