พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 2 - 8 เมษายน พ.ศ. 2568 ออกประกาศวันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 40/2568 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ/ ทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ กับมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้ดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย.68 ลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร คำเตือนในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 ขอให้เกษตรกรบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 % ความยาวนานแสงแดด 8-10 ชม. - ระยะนี้อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว โดยตรวจสอบโรงเรือนให้มีความแข็งแรง หากชำรุดควรซ่อมแซมทันที สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้ปริมาณมีไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล นอกจากนี้ควรเฝ้าระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร เป็นต้น ตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉียงเหนือ สูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย.68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ระยะนี้อากาศร้อนโดยทั่วไป ในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 จะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยตัดแต่งกิ่งต้นไม้ที่ล้อมรอบบริเวณบ้านและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการหักโค่นล้มทับบ้านและโรงเรือน ส่วนพืชผลทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะอาจทำให้เปียกชื้นเสียหายได้ สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงจากขาดแคลนน้ำ นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักไว้ด้วย กลาง อากาศร้อนโดยทั่วไป ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - ระยะนี้อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้ปริมาณมีน้อยและไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลการให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร เป็นต้น เนื่องจากศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนต่างๆ ของพืชทำให้พืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรเปิดเครื่องตีน้ำ หลังจากฝนตก เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเติมออกซิเจนในน้ำด้วยตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานแสงแดด 7-9 ชม. - สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้ ปริมาณมีน้อยและไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะติดดอกออกผล รวมถึงควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักไว้ด้วย ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเปิดเครื่องตีน้ำหลังจากฝนตก เพื่อป้องการแบ่งชั้นของน้ำและเพิ่มออกซิเจนในน้ำแล้วยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมในบ่อเลี้ยงให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ใต้ ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-7 ชม. ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม. - ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย. 68 จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังควรตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างและเชือกที่ยึด เพื่อป้องกันกระชังหลุดลอยหรือเสียหายจากกระแสน้ำที่แรง รวมทั้งตรวจสอบตาข่ายกระชังว่ามีรอยขาดหรือไม่ เพื่อป้องกันปลาหลุดออกจากกระชัง ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. 68 ฝนจะลดลง เกษตรกรควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในไม้ผลไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 2-4 เม.ย.68 จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มควรระมัดระวังในการเดินเรือลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 1 เมษายน 2568 มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ และตราด ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ตาก อุดรธานี หนองบัวลำภู มุกดาหาร มหาสารคาม ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา