ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 10 พฤศจิกายน 2551 - 16 พฤศจิกายน 2551
ภาคเหนือ
อากาศหนาวทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส ในระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กโดยทำแผงกำบังลมหนาว ป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย อนึ่ง เนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศหนาวทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพและอุณหภูมิน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งจำกัดปริมาณการให้อาหาร เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย ซึ่งอาจลุกลามได้ง่ายในสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง
ภาคกลาง
ในวันที่ 10-13 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีบางแห่งทางตอนล่างของภาค ในช่วงที่อุณหภูมิลดลงเกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพและอุณหภูมิน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งจำกัดปริมาณการให้อาหาร เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลืออาจจะทำให้น้ำเน่าเสีย ในระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ในระยะนี้ ควรตรวจสอบปริมาณน้ำสำรองสำหรับพืชในช่วงเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
ในวันที่ 10-13 พ.ย. มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับชาวสวนผลไม้ควรกำจัดวัชพืช และตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้แสงแดดส่องผ่านได้ทั่วถึง ส่วนในระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ และวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ อนึ่ง ในระยะนี้ขอให้ชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 10-12 และ 15-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ส่วนมากทางด้านฝั่งตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาสระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเตรียมจุดอพยพสัตว์เลี้ยงไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง นอกจากนี้ควรสำรองอาหารไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ รวมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่มากับน้ำแก่สัตว์เลี้ยง ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคเปลือกเน่า เป็นต้น อนึ่ง ในระยะนี้มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวประมงขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74