พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2551 - 18 พฤศจิกายน 2551
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-16 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัด ปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศอุ่นขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีจะมีฝนลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง
ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน อีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12-14 และในวันที่ 18 พ.ย. ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้จังหวัดชุมพรลงไประมัดระวังอันตรายจากสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 พ.ย. ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 12-16 พ.ย. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. อากาศจะเย็นลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 12-16 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. อากาศจะเย็นลง และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 12-14 และวันที่ 18 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. อากาศจะอุ่นขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 12-14 และวันที่ 18 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. อากาศจะอุ่นขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 12-14 และวันที่ 18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 12-14 และวันที่ 18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 12-14 และวันที่ 18 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้า
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. อากาศจะอุ่นขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74