ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 17 พฤศจิกายน 2551 - 23 พฤศจิกายน 2551
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย. มีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนผู้ที่ปลูกพืชผักควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง อนึ่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย ที่อาจลุกลามได้ง่ายในสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจจะเปียกชื้นเสียหาย นอกจากนี้เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบไม้ และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย.อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรฟื้นฟูสภาพพื้นที่การเกษตรให้พร้อมเพาะปลูกต่อไป ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนเกินไป ป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน ไม่ให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 17 - 18 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งควรจำกัดปริมาณอาหารเนื่องจากอุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเสีย ส่วนชาวสวนผลไม้ควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว และใบไม้ เพื่อสงวนความชื้นในดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 17-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงควรเตรียมจุดอพยพไว้ที่สูง น้ำท่วมไม่ถึง และสำรองอาหารให้สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ รวมทั้งควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ย. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74