ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 19 พฤศจิกายน 2551 - 25 พฤศจิกายน 2551
ภาคเหนือ
อากาศเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสในวันที่ 20-22 พ.ย. ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียสและอาจมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 พ.ย. จะมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับผู้ที่ปลูกลำไยควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูดต่างๆ เช่น เพลี้ยไฟและไรลำไย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-22 และ 25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว ถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 23-24 พ.ย. มีหมอกหนาในบางพื้นที่ในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งควรจำกัดปริมาณการให้อาหาร เนื่องจากอุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย
ภาคกลาง
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนมากในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. ทำให้มีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลง อนึ่ง ในสภาพอากาศแห้งและมีลมแรง จะทำให้อัตราการระเหยของน้ำเร็วขึ้น เกษตรกรจึงควรคลุมบริเวณแปลงปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบไม้ และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
ภาคตะวันออก
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียสส่วนมากในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. ทำให้มีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ส่วนในช่วงวันที่ 20-25 พ.ย. มีหมอกหนาในบางพื้นที่ ในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนเกินไป เพราะสัตว์อาจปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางตอนล่างของภาคตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปส่วนมากในช่วงวันที่ 19-22 และ 25 พ.ย. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้คะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวสวนยางพาราควรกำจัดวัชพืชภายในสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบร่วงลูกยางเน่า เป็นต้น อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-21 และ 25 พ.ย. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74