พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 19 ธันวาคม 2551 - 25 ธันวาคม 2551

ข่าวทั่วไป Friday December 19, 2008 15:00 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 19 ธันวาคม 2551 - 25 ธันวาคม 2551

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ในช่วงที่มีหมอกหนา เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง นอกจากนี้ควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุสีเข้มเพื่อรักษาความชื้นดินและควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ลดลงต่ำจนพืชผักเสียหาย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือน และทำที่กำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยง ป้องกันสัตว์ไม่ให้หนาวเย็น และเจ็บป่วยง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสและลมแรง สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากใว้กลางแจ้งข้ามคืน เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้าง สภาพอากาศที่แห้งและลมแรงในระยะนี้ เกษตรกรจึงไม่ควรเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะอาจลุกลามทำให้เกิดอัคคีภัย บริเวณพื้นที่การเกษตรและอาคารบ้านเรือนได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียสและมีลมแรง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเพิ่มอุณหภูมิของน้ำและอย่าให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งให้อาหารในปริมาณลดลง เพราะในช่วงที่อุณหภูมิลดลง สัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย สำหรับสภาพอากาศแห้งและมีลมแรงในระยะนี้ทำให้น้ำระเหยได้มาก เกษตรกรที่ให้น้ำแก่พืชในระยะนี้จึงควรให้ครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง เพื่อลดอัตราการระเหยและควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรที่ปลูกพริกไทควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นทรุดโทรม ส่งผลให้ผลผลิตลดลง ไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับอัตราการระเหยที่เพิ่มขึ้นเพราะหากขาดน้ำจะทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค. อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนล่างของภาค สำหรับทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 19-22 ธ.ค.มีเมฆบางส่วน ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนล่างของภาค สำหรับบริเวณทางตอนบนของภาคซึ่งมีปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่มีระบบรากสั้นและอยู่ในระยะเจริญเติบโต อย่างพอเพียง ส่วนทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดหลังน้ำลด โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และโรคตาแดง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค.บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง ลมแรงผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ