พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 22 ธันวาคม 2551 - 28 ธันวาคม 2551

ข่าวทั่วไป Monday December 22, 2008 16:04 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 22 ธันวาคม 2551 - 28 ธันวาคม 2551

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. อากาศหนาว อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. มีหมอกเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง และให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือน และกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยงป้องกันความหนาวเย็นที่จะส่งผลให้เจ็บป่วย สำหรับในช่วงนี้สภาพอากาศแห้งและลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือน ตลอดจนดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส และลมแรง อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนและทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์ไม่ให้อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย เกษตรกรที่จะปลูกพืชในระยะนี้ควรมีน้ำสำรองให้พืชในระยะเจริญเติบโตหากขาดน้ำพืชจะชะงักการเจริญเติบโตผล ผลิตลดลงหากขาดน้ำรุนแรงพืชก็จะเหี่ยวเฉาตาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะอาจทำให้สัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่ายและควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยติดเชื้อควรรีบแยกออกจากกลุ่ม และรักษาเพื่อป้องกันเชื้อโรค แพร่ไปยังตัวอื่นๆ พื้นที่การเกษตรซึ่งอยู่นอกเขตชลประทาน ควรใช้น้ำอย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำจากแหล่งสำรองน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกร ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในข้าวโพดที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นทรุดโทรม ส่งผลให้ผลผลิตลดลง สำหรับชาวสวนยางพาราควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย และไฟป่าซึ่งมักเกิดในช่วงหน้าแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป สำหรับทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนลดลงในระยะต่อไป นอกจากนี้เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำ จะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ อนึ่ง ในระยะนี้ บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง2-3 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวและชาวประมงควรเพิ่ม ความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ