ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 26 ธันวาคม 2551 - 01 มกราคม 2552
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. 2551 มีฝนกระจาย ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. 2551 อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2551 - 1 ม.ค. 2552 อากาศจะหนาวเย็นลง ดังนั้นผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วจึงไม่ควรตากทิ้งใว้กลางแจ้งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 26-27ธ.ค. เพราะอาจเปียกชื้นเสียหาย ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเตรียมแหล่งน้ำสำรองให้พืชในระยะเจริญเติบโต เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตลดลง หรือสูญเสียโดยสิ้นเชิงถ้าขาดแคลนน้ำมากๆ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. 2551 มีฝนเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนของภาคในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 2551 อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. 2551 - 1 ม.ค. 2552 อากาศจะหนาวเย็นลง และมีลมแรง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรใว้กลางแจ้งในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรให้ความอบอุ่นแก่สัตว์อย่างเพียงพอ และทำแผงกำบังลมหนาว ป้องกันไม่ให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. 2551 มีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนบนของภาคในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. 2551 อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2551 - 1 ม.ค. 2552 อากาศจะหนาวเย็นลง และมีลมแรง สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหมั่นสังเกตหากพบตัวที่ป่วยจากการติดเชื้อควรรีบแยกออกจากกลุ่ม และทำการรักษาเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ ระยะนี้สภาพอากาศแห้งจึงควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร ชนิดต่างๆในพืชไร่ พืชผัก และไม้ผล ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ต้นทรุดโทรม ผลผลิตลดลง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค. 2551 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. 2551 อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกบางในตอนเช้า ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 2551 - 1 ม.ค. 2552 อากาศจะหนาวเย็นลง และมีลมแรงเนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงในระยะนี้ทำให้น้ำผิวดินระเหยได้มาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นดิน นอกจากนี้ควรวางแผนการจัดการน้ำทางด้านการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ ตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปเกือบตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนล่างของภาคตลอดช่วง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาใว้ใช้ในช่วงที่มีฝนน้อยในระยะต่อไป อนึ่งในระยะนี้ บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74