พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 14 มกราคม 2552 - 20 มกราคม 2552

ข่าวทั่วไป Wednesday January 14, 2009 15:53 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 14 มกราคม 2552 - 20 มกราคม 2552

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิในภาคเหนือจะลดลงอีก 1-3 องศา ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

สำหรับในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลงเป็นลำดับ ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศอุ่นขึ้น โดยจะมีหมอกเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีหมอกหนาในบางพื้นที่ในตอนเช้า

ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ม.ค. 2552 ชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่บ้านเรือนอยู่บริเวณชายฝั่งในภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 14-17 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-5 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-5 องศา และจะมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศหนาวถึงหนาวจัด และลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-7 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-5 องศา โดยจะมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. มีลมแรง และอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-5 องศา โดยจะมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. มีลมแรง และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา

ในช่วงวันที่ 14-16 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-5 องศา โดยจะมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา โดยตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 14-16 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17-20 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา และมีเมฆบางส่วน โดยในช่วงวันที่ 17-20 ม.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14-15 ม.ค. อากาศเย็น และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา โดยจะมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว

10-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ