พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 19 มกราคม 2552 - 25 มกราคม 2552

ข่าวทั่วไป Monday January 19, 2009 15:55 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 19 มกราคม 2552 - 25 มกราคม 2552

ภาคเหนือ

อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-6 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ในระยะนี้แม้อุณหภูมิจะสูงขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์หนาวเย็น ผู้ที่เลี้ยงสัตว์จึงควรให้ความอบอุ่นภายในโรงเรือนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกัน ไม่ให้สัตว์อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 19-22 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยเฉพาะบ่ออนุบาล ป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 24-25 ม.ค. มีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค สำหรับบริเวณที่มีหมอกหนาทำให้ทัศนวิสัยลดลง เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะใช้รถใช้ถนนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชนอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส และมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 24-25 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง เกษตรกรจึงควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งเพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากฝนที่ตก สำหรับบริเวณที่ฝนตกน้อย อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของไม้ผลที่กำลังออกดอก ชาวสวนจึงควรให้น้ำอย่างเหมาะสม ป้องกันพืชขาดน้ำทำให้ดอกร่วงหล่น ผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆส่วนมากตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 24-25 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 19-23 ม.ค. มีเมฆบางส่วน ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 24-25 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆส่วนมากทางตอนล่างของภาค สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในช่วงนี้ ควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีปะสิทธิภาพ ส่วนชาวสวนกาแฟที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ควรลดความชื้นก่อนเก็บ เพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสีย อนึ่งในช่วงวันที่ 24-25 ม.ค.ขอให้ชาวประมงในอ่าวไทยตอนล่างระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ