ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 23 มกราคม 2552 - 29 มกราคม 2552
ภาคเหนือ
อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณที่มีหมอกหนาทำให้ทัศนวิสัยลดลง เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ในสภาพอากาศนาวเย็นและมีหมอกหนา อาจเกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างในพืชผักและโรคราสนิมในไม้ดอกไม้ประดับ เกษตรกรจึงควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในสภาวะดังกล่าว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสและมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ระยะนี้บางช่วงมีหมอกหนาเกษตรกรควรระมัดระวังขณะขับขี่ยานพาหนะผ่านบริเวณดังกล่าว ในช่วงนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอุณหภูมิและสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งควรจำกัดปริมาณการให้อาหาร เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิลดลงสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย
ภาคกลาง
ในวันที่ 24 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. จะมีหมอกลดลง ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นทำให้ทัศนะวิสัยลดลง เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในการสัญจร สำหรับผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้วควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้
ภาคตะวันออก
ในวันที่ 24 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. จะมีหมอก ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ชาวสวนไม้ผลควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสมกับระยะเจริญเติบโต เพื่อป้องกันไม่ให้พืชขาดน้ำ ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ในระยะนี้ต้องมีแหล่งน้ำสำรองไว้สำหรับพืช และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควรเลือกพืชต้องการน้ำน้อย และอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตสั้น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในวันที่ 24 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆส่วนมากตั้งแต่จังหวัด สุราษฏร์ธานีลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส เกษตรกรที่อยู่ทางตอนบนของภาคควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันพืชขาดน้ำและชะงักการเจริญเติบโต อนึ่งในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค.ขอให้ชาวประมงในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไประมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74