พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 26 มกราคม 2552 - 01 กุมภาพันธ์ 2552

ข่าวทั่วไป Monday January 26, 2009 15:44 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 26 มกราคม 2552 - 01 กุมภาพันธ์ 2552

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28 ม.ค. — 1 ก.พ. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้าและมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณที่มีหมอกหนาทำให้ทัศนวิสัยลดลง เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ชาวสวนลำไยควรระวังและป้องกันหนอนเจาะขั้วผลและเพลี้ยชนิดต่างๆ เช่น เพลี้ยแป้ง ที่จะทำลายผลผลิตและคุณภาพลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28 ม.ค. -1 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-4 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า ทำให้ทัศนะวิสัยลดลง เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในการสัญจร นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่อาจระบาดในสภาพที่อากาศเย็นและมีหมอกหนา เช่น โรคราน้ำค้างในพืชผักต่างๆ ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ในช่วงนี้ควรเลือกพืชที่ต้องการน้ำน้อยและอายุการเก็บเกี่ยวสั้น

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28 ม.ค. — 1 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า ระยะนี้เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชผักที่ปลูกใหม่อย่างเพียงพอและคลุมบริเวณแปลงปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 28 ม.ค.-1 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า เกษตรกรจึงควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพื่อป้องกันการเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้าง สำหรับมะม่วงที่กำลังออกดอก ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆที่จะทำให้ดอกร่วงหล่น ผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส ในวันที่ 26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป ในช่วงวันที่ 27 ม.ค.- 1 ก.พ. มีฝนลดลงส่วนมากตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีหมอกในตอนเช้า และมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้ทางตอนบนของภาคมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้พืชขาดน้ำจนชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูดชนิดต่างๆ อนึ่งในช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ