พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 4-10 กุมภาพันธ์ 2552

ข่าวทั่วไป Wednesday February 4, 2009 15:41 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 04 กุมภาพันธ์ 2552 - 10 กุมภาพันธ์ 2552

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อากาศหนาวทางตอนบนสุดของภาคส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 14-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมอ่อน หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ในบริเวณที่มีหมอกหนาทำให้ความสามารถในการมองเห็นในระยะไกลลดลง เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ในระยะนี้สภาพอากาศแห้งดังนั้นชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นทรุดโทรม ตาดอกเหี่ยวแห้ง ผลผลิตลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 4-5 ก.พ. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-9 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า ในช่วงนี้จะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากในช่วงกลางวันและกลางคืน เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันทำให้อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

อากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน หากต้องการปลูกพืชในระยะนี้อาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ จะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง จึงควรจัดหาน้ำสำรองไว้ให้พืชในระยะเจริญเติบโต และผลิดอกออกผล นอกจากนี้ควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นในดิน

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยจะมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างพอเพียง เพราะหากขาดน้ำในระยะดังกล่าวจะทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงหล่น การติดผลลดลง สำหรับชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส เนื่องจากระยะต่อไปจะมีปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรวางแผนการจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง นอกจากนี้ควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืช ด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ในพืชผัก และไม้ผล ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ