ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 19 ตุลาคม 2552 - 25 ตุลาคม 2552
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-21 ต.ค. ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนทางตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วงวันที่ 22-24 ต.ค. มีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางด้านตะวันตกของภาค และอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูดและหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้พืชเสียหาย อนึ่ง เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้สำหรับการเกษตรในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็น และมีหมอกบางในตอนเช้า ช่วงวันที่ 19-20 ต.ค.โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค ช่วงวันที่ 21-24 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และอุณหภูมิลดลง สำหรับข้าวนาปีชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนและแมลงชนิดต่างๆ รวมทั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ โรคขอบใบแห้งซึ่งอาจระบาดได้ในช่วงนี้
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย โดยมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาคเกือบตลอดช่วง สำหรับข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงนี้ เกษตรกรควรลดความชื้น อบให้แห้งก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ที่จะทำลายผลผลิตให้เสียหาย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์อาจปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณแปลงปลูก ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจระบาดได้ง่ายในสภาพอากาศชื้นสูงเช่นนี้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายตลอดช่วง และช่วงวันที่ 19-22 ต.ค. มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณทางตอนบนของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกช่วงวันที่ 19-21 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 21-25 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะทางตอนบนของภาคควรระวังอันตรายสภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก พื้นที่การเกษตรในบริเวณที่ลุ่มควรจัดเตรียมระบบระบายน้ำออกจากแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาพน้ำที่อาจเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เนื่องจากฝนที่ตกหนัก ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้สะอาดและโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ช่วยลดความชื้นภายในสวน รวมทั้งควรทาสารป้องกันเชื้อราบริเวณหน้ากรีดยาง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74