ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 20 พฤศจิกายน 2552 - 26 พฤศจิกายน 2552
ภาคเหนือ
ช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส และมีฝนเป็นบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศาเซลเซียส ช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายส่วนข้าวนาปีที่ออกรวง ชาวนาควรระวังและป้องกันศัตรูพืชประเภทปากดูดจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำลายผลผลิตให้เสียหาย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับผู้ที่ปลูกมะขามหวานควรระวังและป้องกันการระบาดของหนอนเจาะขั้วผลและโรคราทำลายฝัก ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ
ภาคกลาง
อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส ช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ระยะนี้สภาพอากาศเย็นและแห้ง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงต้นพืช ทำให้เสียหายและชะงักการเจริญเติบโต ลำต้นแคระแกร็น
ภาคตะวันออก
อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส ช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส ชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งอาจระบาด กัดกินทำให้ต้นพืชเสียหาย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตอนล่างของภาคเกือบตลอดช่วง ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนล่างของภาคเกือบตลอดช่วง เกษตรกรบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไประมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เกษตรกรจึงควรเตรียมทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง อนึ่ง ช่วงวันที่ 20 -23 พ.ย. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นซัดฝั่ง ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74