พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 25 พฤศจิกายน 2552 - 01 ธันวาคม 2552

ข่าวทั่วไป Wednesday November 25, 2009 15:31 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 25 พฤศจิกายน 2552 - 01 ธันวาคม 2552

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ย. อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยแต่อากาศยังคงหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณที่มีหมอกหนาทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับในระยะนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง ซึ่งจะทำให้พืชเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-27 พ.ย. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ช่วงวันที่ 28 พ.ย.-1 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยเช่นนี้ เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่วนผู้ที่ปลูกพืชควรให้น้ำอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้น เพื่อป้องกันพืชขาดน้ำจนชะงักการเจริญเติบโต

ภาคกลาง

อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียสเกือบตลอดช่วง ในสภาพอากาศที่เย็นและแห้งอาจเกิดการลุกลามของอัคคีภัยได้ง่าย เกษตรกรที่จุดไฟ เพื่อให้ความอบอุ่นให้แก่ตนเองและสัตว์เลี้ยง หลังจากเลิกใช้งานควรดับให้สนิท

ภาคตะวันออก

อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียสเกือบตลอดช่วง สภาพอากาศที่เย็นและแห้งเกษตรกรที่ปลูกไม้ผลให้ระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นเสียหาย ควรหมั่นตรวจสอบและรีบกำจัดก่อนระบาดเป็นบริเวณกว้าง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการปลูกพืชรอบใหม่ แต่ถ้ามีแหล่งน้ำสำรองพอเพียงก็ควรเลือกปลูกพืชที่อายุสั้นหรือทนแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 25-27 พ.ย.ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมาอากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 28-29 พ.ย.ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาคเกือบตลอดช่วง ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์น้ำหรือปลูกพืชรอบใหม่ควรชะลอไว้ก่อนในระยะนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-29 พ.ย. คลื่นบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหาย ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ