พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 04 ธันวาคม 2552 - 10 ธันวาคม 2552

ข่าวทั่วไป Friday December 4, 2009 15:43 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 04 ธันวาคม 2552 - 10 ธันวาคม 2552

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส โดยมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วเกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจจะเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานและมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากระยะต่อไปฝนจะลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ในช่วงที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์เลี้ยงที่ปรับตัวไม่ทันจะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขามีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ระยะนี้ปริมาณฝนมีน้อยประกอบกับสภาพอากาศแห้งและมีแดดจัดทำให้น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อรักษาความชื้นในดิน สำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ควรป้องกันไม่ให้ลมโกรกรุนแรงในบริเวณโรงเรือน สภาพหนาวเย็นจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส และจะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรตลอดช่วงแล้ง สำหรับชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ระยะนี้ทางตอนบนของภาคสภาพอากาศจะแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ส่วนทางตอนล่างของภาคซึ่งมีฝนตกชุก เกษตรกรที่ปลูกพืชสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคใบยางร่วงลูกยางเน่าในยางพารา อนึ่ง ในช่วงวันที่ 4 - 5 ธ.ค. ชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ