ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 30 ธันวาคม 2552 - 05 มกราคม 2553
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 1-2 ม.ค. มีฝนบางแห่ง ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. — 1 ม.ค. มีฝนบางแห่ง สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง รวมทั้งควรระมัดระวังอุบัติเหตุในการขับขี่ยานพาหนะในบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกและพืชไร่ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชจำพวกเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 30 ธ.ค.- 2 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-5 ม.ค. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกฝนเสียหายได้ ส่วนพืชไร่และผักชนิดต่างๆ ที่อยู่ในระยะต้นอ่อน เกษตรกรควรดูแล ให้น้ำเพิ่มเติม รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ
ภาคกลาง
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. - 2 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกในระยะนี้ มีน้อย สำหรับมะม่วงที่กำลังออกดอก ชาวสวนควรดูแลให้น้ำเหมาะสมตามความต้องการของพืช เพื่อป้องกันผลผลิตร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกิน น้ำเลี้ยง ทำให้ผลอ่อนร่วงหล่น
ภาคตะวันออก
มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. - 2 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. มีฝนบางแห่ง แม้จะมีฝนในระยะนี้แต่ปริมาณน้อย สำหรับพืชไร่และผักชนิดต่างๆ ที่อยู่ในระยะต้นอ่อน เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันพืช แคระแกร็นและผลผลิตลดลง รวมทั้งควรป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 30-31 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย หลังจากนั้นฝนจะลดลงโดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกือบตลอดช่วง เนื่องจากระยะนี้ทางตอนนของภาคมีปริมาณฝนน้อย ผู้ที่ปลูกพืชไร่และผักชนิดต่างๆควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต ส่วนไม้ผลที่กำลังออกดอก ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ดอกร่วงหล่น การติดผลลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74