พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 8 มกราคม 2553 - 14 มกราคม 2553

ข่าวทั่วไป Friday January 8, 2010 14:42 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 08 มกราคม 2553 - 14 มกราคม 2553

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 10-12 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ กับมีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย สำหรับบริเวณที่มีหมอกหนาจะมีทัศนวิสัยลดลง เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวังขณะผ่านบริเวณดังกล่าว สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคราน้ำค้าง ซึ่งมักระบาดในช่วงฤดูหนาว ส่วนผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วหากเปียกชื้นควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บเพื่อป้องกันผลผลิตเน่าเสียหาย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันกับมีฝนบางแห่ง และมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย อุณหภูมิลดลง 2-5 องศาเซลเซียส เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบไม้ หรือหญ้าแห้ง เพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำจากผิวดิน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ระยะต่อไปปริมาณฝนจะมีน้อย เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเองควรใช้น้ำอย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วหากเปียกฝน ควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อไม่ให้ผลผลิตเน่าเสียหาย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับ ไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกเมื่อเห็นดอกชัดเจนแล้ว เกษตรกรควรให้น้ำอย่างเหมาะสม โดยเริ่มจากครั้งละน้อยๆแล้วจึงค่อยเพิ่มปริมาณ หากขาดน้ำดอกจะร่วงหล่นการติดผลลดลง นอกจากนี้ควรกักเก็บน้ำและใช้น้ำอย่างประหยัด ตลอดจนวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้สำหรับการเกษตรตลอดช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 8-10 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 8-10 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นทรุดโทรม ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้เพื่อการเกษตร รวมทั้งวางแผนการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง อนึ่ง ในระยะนี้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ