ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 มกราคม 2553 - 21 มกราคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. จะมีหมอกเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวัง ขณะขับขี่ยวดยานพาหนะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนเกษตรกรที่จุดไฟผิงเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน นอกจากนี้ควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือน เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. จะมีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่ง ช่วงนี้อากาศยังคงหนาวเย็น เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและเพิ่มความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยง เพื่อมิให้เจ็บป่วย ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค.มีฝนบางแห่ง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตร สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ใช้น้ำน้อย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. จะมีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่ง ไม้ผล เช่น มะม่วงกำลังออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรหมั่นสำรวจสวน เพราะอาจมีแมลงศัตรูพืชจำพวกปากดูดระบาด หากพบควรรีบป้องกันกำจัด
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ม.ค. จะมีหมอกในตอนเช้าและมีฝน บางแห่ง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตร สำหรับไม้ผล เช่น เงาะ และทุเรียน อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ดอกร่วงหล่น ผลชะงักการเจริญเติบโต
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งทางตอนล่างของภาค ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. บริเวณภาคใต้ตอนล่างเกษตรกรควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ อนึ่ง ระยะนี้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74