พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 03 กุมภาพันธ์ 2553 - 09 กุมภาพันธ์ 2553

ข่าวทั่วไป Wednesday February 3, 2010 14:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 03 กุมภาพันธ์ 2553 - 09 กุมภาพันธ์ 2553

ภาคเหนือ

มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ซึ่งอาจทำความเสียหายต่อผลผลิตการเกษตรได้ ต่อจากนั้นอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อพืชโดยเฉพาะไม้ดอกและผักชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นพืชที่มีระบบรากตื้นควรให้น้ำสม่ำเสมอ และคลุมโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งเพราะจะเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกได้ สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรงดปลูกพืชในช่วงนี้หรือเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย

ภาคกลาง

มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนอง เป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และลมกระโชกแรงบางแห่ง ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำพืชเพิ่มเติม และคลุมโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดอัตราการระเหยของน้ำจากดิน ส่วนไม้ผลที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนควรดูแลให้น้ำสม่ำเสมอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ

ภาคตะวันออก

มีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง และในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และลมกระโชกบางแห่ง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน เกษตรกรควรให้น้ำสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผลอ่อนร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยไฟและไรชนิดต่างๆ ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ตลอดช่วง เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะมีน้อย เกษตรกรควรใช้น้ำที่สำรองไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง ชาวสวนผลไม้ควรให้น้ำแก่ไม้ผล ที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อนสม่ำเสมอ หากขาดน้ำรุนแรงผลอ่อนอาจจะร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ