พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 5 มีนาคม 2553 - 11 มีนาคม 2553
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 5-7 มี.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำจากความร้อนจะปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และในวันที่ 8-11 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนได้ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตก โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน และอุณหภูมิลดลงซึ่งจะบรรเทาอากาศร้อนได้ในระยะนี้ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 8-11 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ต้นไม้หักโค่น ป้ายโฆษณาหรือบ้านเรือนได้รับความเสียหายในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ
ภาคเหนือ อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา เว้นแต่ทางตอนบนของภาคในตอนเช้าอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา และในช่วงวันที่ 9-10 มี.ค. มีฝนพายุฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศา และในช่วงวันที่ 8-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม
ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศา และในช่วงวันที่ 8-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อน และฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา และในช่วงวันที่ 8-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และในวันที่ 10-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2เมตร และจังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และในวันที่ 10-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา และในช่วงวันที่ 8-11 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74