พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2553 - 17 มีนาคม 2553

ข่าวทั่วไป Thursday March 11, 2010 14:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2553 - 17 มีนาคม 2553

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-15 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยนี้จะอ่อนกำลังลงและความกดอากาศต่ำจากความร้อนจะเข้ามาปกคลุมแทนที่ ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นและอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะอ่อนกำลังลง และในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยพัดปกคลุมภาคใต้ ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังปานกลางข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ซึ่งทำให้ต้นไม้และป้ายโฆษณาโค่นล้ม และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย สำหรับชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือจากคลื่นลมในอ่าวไทยที่มีกำลังแรง จนถึงวันที่ 12 มี.ค. 53

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 11 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม ต่อจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้นมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11 มี.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ต่อจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้นมีอากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา และในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้นมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. และใน ช่วงวันที่ 16-17 มี.ค.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ10-20ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-12มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ต่อจากนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นมีอากาศร้อนทางตอนบนของภาคและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร และในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ต่อจากนั้น มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และในช่วงวันที่ 16-17 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ต่อจากนั้น มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 11-12 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. และใน ช่วงวันที่ 16-17 มี.ค.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ10-20ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว10-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ