ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 15 มีนาคม 2553 - 21 มีนาคม 2553
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับสิ่งปลูกสร้างและพืชผลทางการเกษตร สำหรับชาวสวนควรค้ำยันลำต้นและกิ่งของไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตให้แข็งแรง ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชใช้น้ำน้อยและมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น นอกจากนี้ควรจัดสรรแหล่งน้ำสำรองให้เหมาะสม เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. สำหรับสภาพอากาศที่ร้อน เกษตรกรควรหาทางปรับลดอุณหภูมิในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และจัดหาน้ำดื่มให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค.มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ เกษตรกรควรป้องกันความเสียที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร สำหรับสภาพอากาศร้อนและแสงแดดจัดทำให้น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ชาวสวนควรตรวจสอบวัสดุที่ค้ำยันลำต้นและกิ่งของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงและแข็งแรง สำหรับสภาพอากาศร้อนและแห้งอาจมีแมลงศัตรูพืชจำพวกปากดูดระบาดได้ เช่น ไรแดงในทุเรียน เพลี้ยไฟและเพลี้ยแป้งในมังคุด ชาวสวนควรป้องกันกำจัดศัตรูพืชดังกล่าว
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เว้นแต่ในช่วงวันที่ 17-20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ระยะนี้จะยังคงมีฝนตกน้อยและอากาศแห้ง อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย ส่วนเศษใบไม้หรือหญ้าแห้งจะเป็นเชื้อเพลิงได้ดี ชาวสวนยางควรเก็บกวาดใบยางแห้งภายในสวนให้โล่งเตียน รวมทั้งทำแนวป้องกันไฟรอบสวนยาง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-20 มี.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74