ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 26 มีนาคม 2553 - 01 เมษายน 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และในช่วงวันที่ 28-31 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ต่อจากนั้นอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. เกษตรกรควรป้องกันการหักโค่นของไม้ผลจากลมกระโชกแรง โดยค้ำยันลำต้นและกิ่งให้แข็งแรง ช่วงนี้จะมีฝนตกแต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อจะได้มีเพียงพอตลอดช่วงแล้ง อย่างไรก็ตามฝนที่ตกในระยะนี้จะช่วยให้หมอกควันบรรเทาลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ต่อจากนั้นฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค.จะมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดกับสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง สภาพอากาศที่แปรปรวนอาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เกษตรกรควรป้องกันโดยดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และลมกระโชกแรงกับลูกเห็บตกบางแห่ง ต่อจากนั้นอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในช่วงวันที่ 26-27 มี.ค. เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรจากลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก สำหรับเกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวอ้อย ไม่ควรเผาใบอ้อยก่อนตัด เพราะจะทำลายอินทรีย์วัตถุในดินที่มีประโยชน์ต่อพืช และเป็นการซ้ำเติมภาวะโลกร้อน
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 26-28 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29 มี.ค. -1 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 26-28 มี.ค.เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากลมกระโชกแรง และควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้เพื่อการเกษตรในระยะต่อไปด้วย ฝนตกในระยะนี้ทำให้ความชื้นในดินเพิ่มขึ้น เกษตรกรสามารถสงวนความชื้นในดินไว้ โดยคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่วันที่ 26-28 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เว้นแต่ในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ฝนที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชที่กำลังเจริญเติบโต นอกจากนี้ควรกักเก็บน้ำฝนที่ตกไว้ใช้ในระยะต่อไป อนึ่ง ในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74