พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 12 เมษายน 2553 - 18 เมษายน 2553
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ต่อจากนั้น ในช่วงวันที่ 15-18 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะนี้โดยลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ข้อควรระวัง เนื่องจากในระยะนี้ประเทศไทยมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ต่อเนื่องไปอีกอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ และในช่วงวันที่ 14-18 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น
ภาคเหนือ มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศา
โดยในช่วงวันที่ 16-18 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และลูกเห็บตกบางพื้นที่
ลมอ่อน 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-42 องศา และในช่วงวันที่ 14-18 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่งกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศา
โดยในวันที่ 15-17 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนถึงร้อนจัดและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศา และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 14-18 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
โดยในวันที่ 15-18 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาค เกือบตลอดช่วง
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศา
โดยในวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74